วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

ล่องแก่งในลำน้ำนครนายก

ล่องแก่งในลำน้ำนครนายก
ช่วงที่เหมาะในการล่องแก่งจะเริ่มประมารเดือนมิถุนายน-เดือนตุลาคม โดยเริ่มจากบริเวณเชิงสะพานวังตะไคร้แรือเชิงสะพานท่าด่าน เรื่อยมาตามลำน้ำนครนายก ผ่านเกาะแก่งต่างๆ ( แก่งที่น้ำเชี่ยวที่สุด คือ แก่งสามชั้น ) และยังมีจุดนำเรือขึ้นฝั่งและออกมายังถนนใหญ่ได้หลายจุด เช่น ที่บ้านดง แก่งสามชั้น วังกุตภา และวังยาง ระยะทางในการล่องแก่งแต่ละช่วงประมาณ 2-7 กิโลเมตร การล่องแก่งเป็นการท่องเที่ยวที่ผสมผสานไปกับกีฬาทางน้ำที่สนุกตื่นเต้นและ ท้าทาย เป็นการพักผ่อนและออกกำลังกายที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติโดยการพายเรือ แคนู

นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อและจองล่วงหน้าได้ที่ :

แพ แคนู แคมป์ โทร. 0 3738 5042, 0 1863 4197, 0 1863 5246
คยักสคูล โทร. 0 3739 3518, 0 1451 8830
แก่งสามชั้นคยักเซ็นเตอร์ โทร. 0 3738 5275, 0 7142 2208
บ้านสวนสาริกา (บ้านคุณลุง) โทร. 0 3738 5336, 0 1820 1053
MMK วังตะไคร้ โทร. 0 1689 0150
สาริกา แอดเวนเจอร์ พอยท์ โทร. 0 3732 8432, 0 1251 8317, 0 1945 4475
นครนายกล่องแก่ง โทร. 0 3738 4026, 0 9931 1398
ครัวมะปราง โทร. 0 3732 8073
สีดา รีสอร์ท โทร. 0 3738 5154-61
บ้านพี่ชาย โทร. 0 9091 0573
หญ้างาม รีสอร์ท โทร. 0 9402 5790, 0 9772 6441
คยักมาสเตอร์ โทร. 0 1591 1635, 0 9793 9355
สวนลุงใน โทร. 0 3732 8145, 0 1377 7801
สาริกา เนเชอรอลพอยท์ โทร. 0 3732 8324, 0 1340 0654
Boat Club โทร. 0 9831 9096, 0 9934 0610

ล่องแก่งในลำน้ำ นครนายก

แม่น้ำนครนายก มีต้นกำเนิดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เกิดจากลำธารหลายสายมารวมตัวกัน เช่น คลองตะไคร้ คลองนางรอง คลองท่าด่าน เมื่อรวมตัวกันเป็นแม่น้ำไหลผ่านนครนายก ไปรวมกับแม่น้ำปราจีนบุรี เป็นแม่น้ำบางปะกง ไหลลงสู่อ่าวไทย และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯ มากนัก จุดเด่นของลำน้ำนครนายก คือ ตัวแก่งสามชั้นกระแสน้ำจะมีลักษณะไหลลดหลั่นกันลงมาคล้ายขั้นบันได เป็นแก่งที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้พอสมควร และ แก่งเทียม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามแข่งขัน แคนูสลาลม โอลิมปิค รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

แก่งต่าง ๆ ที่จะล่องผ่าน
- แก่งเทียม ที่สร้างขึ้น เพื่อการแข่งขัน แคนูสลาลม
- แก่งโขดคุ้ง มีลักษณะเป็นโขดหินโขดหินโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในช่วงฤดูร้อน แต่จะจมลงไปในน้ำยามฤดูฝน
- เกาะแก่ง มีลักษณะเช่นเดียวกันกับแก่งโขดคุ้ง ถ้าในช่วงฤดูร้อนจะมองเห็นเกาะแก่งนี้ แต่ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝนกระแสน้ำจะท่วมเกาะแก่งนี้จนไม่สามารถมองเห็นได้
- แก่งหินสามชั้น ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการล่องแก่งในลำน้ำนครนายก ก่อนจะถึงตัวแก่งสามชั้นระยะทางไม่กี่เมตรจะถึงโค้งหักศอกก่อน นักล่องแก่งควรระมัดระวังตัว ตั้งในพายให้ดีเมื่อถึงโค้งหักศอกนี้เพราะต่อไปจะเป็นแก่งสามชั้น ซึ่งมีลักษณะเป็นชั้นหินสามชั้นเทลาดเอียงลงมาเป็นขั้นบันได ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร กระแสน้ำจะไหลวนลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำจนเกิดเป็นลูก คลื่นม้วนตัวเข้าหาหินสูงประมาณหนึ่งเมตร เป็นจุดท้าทายของนักพายเรือแคนูและคยัก ซึ่งจะมาประลองกำลังความสามารถกันที่บริเวณแก่งสามชั้นแห่งนี้ การล่องแก่งลำน้ำนครนายกจะสิ้นสุดการล่องที่บริเวณบ้านวังยาวก็ตื่นเต้นเร้า ใจกันเพียงพอแล้ว อย่ล่องเพลินออำไปแม่น้ำบางปะกง เดี๋ยวจะเดือดร้อนสตาฟฟ์ล่องแก่งหาตัวลูกทัวร์ไม่เจอ

ล่องแก่งเริ่ม ล่องแก่งจากบริเวณเชิงสะพานคลองท่าด่าน (หน้าประตูระบายน้ำ เขื่อนขุนด่านปราการชล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ) เรื่อยมาตามลำน้ำนครนายก ผ่านเกาะแก่งต่าง ๆ (แก่งที่น้ำเชี่ยวที่สุดคือแก่งสามชั้น) มีจุดนำเรือขึ้นฝั่งและออกมายังถนนใหญ่ได้หลายจุด เช่น ที่บ้านดง แก่งสามชั้น และ วังกุตภา ระยะทางในการล่องแก่งแต่ละช่วงประมาณ 7 กิโลเมตร การล่องแก่งเป็นการท่องเที่ยวผสมผสานไปกับกีฬาทางน้ำน้ำที่สนุกตื่นเต้น ท้าทาย เป็นการพักผ่อนและออกกำลังกายที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติโดยการพายเรือ แคนู (เรือแคนู เป็นเรือที่มีหัวท้ายเพรียว มีปลายประเภทแต่ประเภทที่เหมาะกับน้ำเชี่ยวคือเรือคยัก)

การจัดระดับความยากของแก่งสามารถแบ่งได้เป็น 6 ระดับ เริ่มจากระดับง่ายๆ คือ 1 จนถึงระดับ 6 ดังนี้
ระดับ 1
ง่ายมาก มีแก่งเล็กน้อยที่ง่ายมากคนทั่วไปสามารถพายได้บนสายน้ำไหลเอื่อย เรียกว่าเหมาะสมสำหรับผู้ที่เริ่ม ล่องแก่งเป็นครั้งแรก
ระดับ 2
ธรรมดา น้ำไหลแรงขึ้น มีแก่งที่ต้องใช้เทคนิค ในระดับนี้ผู้พายจะต้องมีทักษะในการพายอยู่พอสมควร
ระดับ 3
ปานกลาง เริ่มมีแก่งน่าตื่นเต้น เทคนิคการพายสูงขึ้น มีแก่งให้ผู้พายได้ตื่นเต้นเป็นระยะๆ ในการพายจะต้องฝึกฝนเทคนิค การพายและการเรียนรู้ถึงลักษณะของสายน้ำ
ระดับ4
ยาก มีแก่งที่ต้องใช้ทั้งเทคนิคและทักษะในการพาย และต้องใช้ความระมัดระวังในการล่องแก่ง
ระดับ 5
ยากมาก น้ำไหลเชี่ยว ต้องใช้เทคนิคและประสบการณ์การพายสูง และต้องมีความระมัดระวัง ในการล่องแก่งเป็นพิเศษ
ระดับ 6
จัดอยู่ในระดับที่อันตราย ไม่เหมาะสมการล่องแก่งเพราะแก่งมีลักษณะเป็นน้ำตก


แก่งในลำน้ำนครนายก ระดับความยากจะอยู่ที่ 1 - 2 เท่านั้น

หลักการพายเรือล่องแก่ง

ลักษณะของสายน้ำและการอ่านสายน้ำ
ความแรงของกระแสน้ำจะขึ้นอยู่กับส่วนประกอบต่างๆ ในธรรมชาติ เช่น ความลึก (Volume) โดยร่องน้ำยิ่งลึกมาก กระแสน้ำก็จะยิ่งไหลแรงมากขึ้นตาม
การไหลของน้ำ (Gradient) สามารถแยกได้เป็น 2 อย่าง คือ
แก่ง (Rapid) ซึ่งน้ำจะไหลเร็วและแรงมาก
แอ่ง (Pool) น้ำจะไหลช้า และมีความลึกมาก ปกติโดยทั่วไป บริเวณต้นแก่งน้ำ จะไหลเอื่อยและช้ากว่ากลางแก่ง หรือปลายแก่ง

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรรู้และนักล่องแก่งต้องคำนึงถึงก็คือ ความเร็วของกระแสน้ำใต้ผิวน้ำและระดับน้ำจะต่างกัน โดยช่วงต่ำ กว่าผิวน้ำลงไป กระแสน้ำจะค่อย ๆ ลดความเร็วลง

สำหรับ ความลาดเอียงของหินใต้น้ำ (River Bend) จะมีผลต่อความแรงของกระแสน้ำด้วย คือบริเวณที่ลึก น้ำจะไหล แรงกว่าบริเวณที่ตื้น และภายใต้กระแสน้ำอาจจะมีหินใต้น้ำที่มองไม่เห็น และเป็นอันตรายไม่น้อย คือต้นไม้ หรือกิ่งไม้ที่ล้ม ขวางน้ำ อาจจะส่งผลอันตรายต่อลูกเรือ หรือตัวเรือได้

ร่องน้ำรูปตัววี (downstream V) สายน้ำจะบีบตัวเข้าหากันเป็นรูปตัววี โดยมีโขดหินสองข้างขวางลำน้ำ ทำให้เกิด เป็นร่องน้ำระหว่างหินนั้น ควรบังคับหัวเรือให้ตรงตามร่องตัววีนั้น แต่อย่างไรก็ตาม นายท้ายเรือจะต้องตัดสินใจในการ แก้ไขสถานการณ์ล่วงหน้าอีกครั้ง เพราะช่องทางที่ดีที่สุดที่เห็นนั้น อาจจะพัดนักผจญแก่งไปกระแทกกับหินก็ได้
ร่องน้ำรูปตัววีคว่ำ ที่หันมุมแหลมเข้าหาเรานั้น จะเป็นอันตรายมาก เรืออาจจะกระแทกกับหิน หรือน้ำอาจดูดเข้าไปหา จนทำให้เรือ หรือตัวเรากระแทกกับแก่งหินได้
น้ำวน ในกรณีนี้จะต้องพายเรือออกจากศูนย์กลางของวังน้ำวนให้เร็วที่สุด และกรณีผู้ที่ตกน้ำก็เช่นกัน จะต้องพยายาม ว่ายออกจากศูนย์กลางให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องสนใจว่าฝั่งจะอยู่ทางใด และเมื่อหลุดจากวังน้ำวนมาแล้วค่อยว่ายเข้าหาฝั่ง
น้ำนิ่งหลังแก่ง (Eddy) กระแสน้ำบริเวณหลังแก่งจะเป็นน้ำวนไหลย้อนทิศทาง ทำให้มีความแรงของน้ำน้อยลง สามารถใช้เป็นจุดพักเรือได้
คลื่น (Wave) ในกระแสน้ำที่ไหลแรงและลึก หินใต้น้ำ และผิวน้ำจะทำให้เกิดคลื่นน้อยใหญ่แตกต่างกัน คลื่นนั้นอาจจะ ม้วนเป็นวงอย่างแรง ควรพยายามหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้ควบคุมเรือยาก เรืออาจจะถูกกระแสน้ำม้วนทำให้พลิกคว่ำได้
น้ำม้วนหน้าแก่ง (Hydro) เกิดจากกระแสน้ำที่ตกจากที่สูง น้ำที่ตกลงมาจะม้วนตัวอยู่หน้าแก่งก่อนที่จะไหลต่อไป ซึ่ง ถ้ามีความแรงมาก ๆ ก็สามารถที่จะพลิกเรือให้คว่ำได้ และถ้ากระแสน้ำไหลตกจากที่สูงมากเท่าใด ก็จะยิ่งอันตรายมาก เท่านั้น

ถ้ากรณีที่เรือพลิกคว่ำหลังลงจากที่สูงแล้ว ผู้ตกน้ำควรจะดำน้ำมุดหนีโพรงน้ำนั้นให้เร็วที่สุด อย่าพยายามขึ้นมาเหนือน้ำ เพราะกระแสน้ำจะม้วนดูดกลับลงไปอีก

การเตรียมตัวไปล่องแก่ง

1. การล่องแก่งเป็นกิจกรรมประเภทท่องเที่ยวธรรมชาติกึ่งการผจญภัย จำเป็นที่จะต้องใช้ความระมัด ระวังอย่างยิ่งในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ โดยเลือกใช้บริการที่มีการจดทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวแล้วเรียบร้อย และตรวจสอบรายการท่องเที่ยว และข้อตกลงต่าง ๆ ให้เรียบร้อย เช่น การประกันภัย เครื่องมือ อุปกรณ์ที่มีการให้บริการ

2. การเตรียมตัวท่องเที่ยวทางน้ำ ควรเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสม เช่น กางเกงขาสั้น และเสื้อผ้า ควรใช้ผ้าที่ แห้งง่าย รองเท้าแตะที่มีสายรัดจะดีมาก เพราะต้องเตรียมพร้อมที่จะเปียกน้ำ และขึ้นไปเดินบนฝั่ง หากมีการเดินป่าระยะทางไกล ก็จำเป็นต้องนำรองเท้าผ้าใบไปอีกคู่หนึ่ง ในช่วงฤดูหนาวควรมีเสื้อแจ๊กเกต ผ้ากันลมไว้ใส่กันหนาวช่วงที่ล่องแก่งด้วย

3. เสื้อผ้า อุปกรณ์สำหรับแค้มปิ้ง และกล้องถ่ายภาพ และของใช้ต่าง ๆ ควรใส่ถุงพลาสติก หรือถุงกันเปียก ให้เรียบร้อย การเตรียมสัมภาระต่าง ๆนำไปเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ

4. ในการล่องแก่งควรศึกษาข้อปฏิบัติการพายเรือ พยายามมีส่วนร่วมในการเดินทางอย่างดี ควรปฏิบัติตัว ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

การช่วยเหลือตัวเองเมื่อพลัดตกเรือ

เมื่อตกไปในน้ำก็ให้พยายามว่ายเข้าหาเรือ หรือเข้าฝั่งให้เร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นจากกระแส น้ำที่พัดพาตัวเราให้ไปตกอีกแก่งหนึ่งได้

เมื่อตกน้ำ ให้พยายามลอยตัวให้อยู่เหนือน้ำในลักษณะท่านอนหงาย ยกขาทั้งสองข้างขึ้นระดับผิวน้ำ เสื้อชูชีพจะช่วยพยุง ตัวให้ลอย พยายามให้ขาไปข้างหน้าขณะที่ไหลไปตามกระแสน้ำ ค่อยๆ เตะขาอย่างช้าๆ เพื่อชะลอความเร็วและป้องกัน ตัวเองจากการกระแทกกับแก่งหิน

ที่สำคัญอย่างยิ่งในการล่องเรือ ผู้เชี่ยวชาญเน้นที่ความปลอดภัยทุกครั้ง โดยเฉพาะอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น เสื้อชูชีพ หมวกกัน น็อก เสื้อชูชีพจะช่วยพยุงตัวเราให้ลอยเหนือน้ำ ส่วนหมวกกันน็อกนอกจากจะช่วยป้องกันศีรษะกระแทกกับหินแล้ว ใน กรณีตกจากเรือ ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุไม้พายของคนข้างหลังตีอีกด้วย

บริการล่องแก่ง ของเรา

  • ล่องแก่งแพยาง ระยะทาง 7 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 - 1:30 ชม.
  • ล่องแก่งแพยาง ระยะทาง 12 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชม.
  • ล่องแก่งแพยาง พร้อม กิจกรรม Boat Rally เกมส์ 5 ฐาน ระยะทาง 7 กม. ใช้เวลาประมาณ 1:30 - 2 ชม.


ไม่มีความคิดเห็น: